ความหมายของคำว่า  “ ศิลปะ ” นั้นมีความหลากหลายตามการนิยามต่างๆ กันดังนี้พจนานุกรม ฉบับพระราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ 2541 ให้คำจำกัดความว่า ศิลปะ หมายถึง ผลแห่งพลังความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่แสดงออกมาในรูปลักษณ์ต่างๆ ให้ปราฎซึ่งสุนทรียภาพ ความประทับใจ หรือความสะเทือนอารามณ์ตามอัจฉริยภาพ พุทธิปัญญา รสนิยมและทักษะของแต่ละคน เพื่อความพอใจ ความรื่นรมย์หรือเพื่อสนองตอบขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีหรือความเชื่อในลัทธิศาสนา ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศีลกล่าวไว้ว่าศิลปะคืองานอันเป็นพากเพียรของมนุษย์ที่ต้องใช้ความพยายามด้วยมือและความคิดของศิลปิน เก  อเต(Goethe : 1749-1836) กวีชาวเยอรมัน กล่าวว่า “ศิลปะเป็นศิลปะได้ เพราะว่าศิลปะไม่ใช้ธรรมชาติ (Art is art only because it is not nature)”  เซอร์ เฮอร์บิร์ท รีด (Sir Herbert Read 1893 – 1968) กวี นักปรีชญา นักเขียน และนักวิจารณ์ชาวอังกฤษ กล่าวว่า  “ศิลปะจึงได้มีคำจำกัดความอย่างง่ายและเป็นธรรมดาที่สุด คือ พยายามที่จะสร้างสรรค์รูปลักษณ์ความพึงพอใจขึ้นมา และรูปลักษณ์นั้นก่อให้เกิดอารามณ์ความรู้สึกในความงามนั้น จะเป้นที่พึงพอใจได้ก็ต่อเมื่อประสาทสัมผัสของเรารู้สึกชื่นชมในเอกภาพหรือ ความประสานกลมกลืน ในความสัมพันธ์อันมีระเบียบแบบแผน”อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่นักปราชญ์ให้ความเห็นที่ตรงกันคือ ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น (Artifact) เป็นสิ่งที่มิได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้น ถึงธรรมชาติจะมีความสวยงามเพียงไรก็ไม่ใช่ศิลปะ เช่น ดอกไม้ ต้นไม้ต่างๆ ป่าเขา ทะเล ทิวทัศน์ ฯลฯ อาจมีคุณค่าทางความงาม แต่เป็นเพียงปราฎการณ์ธรรมชาติเนื่องจากธรรมชาติเป็นแหล่งทรัพยากรอันสำคัญของศิลปะเป็นแหล่งกระตุ้นให้มุนษย์เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ศิลปวัตถุของมุนษย์ทุกแขนง เป็นแหล่งร่วมความรู้สาขาต่างๆศิลปินเชื่อว่าธรรมชาติรอบตัวนั้นเป็นวัตถุแห่งความรื่นรมย์ยินดี (Objects of Delight ) สร้างความเบิกบานให้แก่ตนเองและผู้อื่นนานัปการ ศิลปินจึงพยายามถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆดังกล่าวบันทึกเป็นงานศิลปะเพื่อเป็นหลังฐานไว้ตามความและด้วยวัสดุที่เห็นว่าดเหมาะสมหลักการทำงานของศิลปินในการทำงานศิลปะจึงแตกต่างกันตามยุคสมัย เช่น สมัยหนึ่งเชื่อว่าศิลปะจะต้องเลียนแบบธรรมชาติ สร้างให้เหมือนธรรมชาติผลงานจะปรากฏเป็นเรื่องของธรรมชาติตามสิ่งที่ตาเห็นมากที่สุด ต่อมามีความเข้าใจว่าการเรียนแบบความเหมือนตามธรรมชาตินั้นไม่มีความแน่นอนไม่มีศิลปินคนใดสามารถถ่ายทอดความเหมือนนั้นได้แนวโน้มการถ่ายทอดเปลี่ยนไปศิลปะเป็นผลงานที่เกิดจากการแสดงออกของ อารมณ์ ปัญญา และทัศนคติรวมทั้งลักษณะความชำนาญของมุนษย์ศิลปะจึงเป็นฝีมือทางการช่างการแสดงอกมาให้ปรากฏขึ้นได้อย่างงดงามน่าชม